๒๑.๔.๕๒

ประวัติ วง เพื่อน

วง " เพื่อน " ได้ก่อกำเนิดตัวขึ้นจากการรวมตัวของสมาชิกวงแกรนด์เอ็กซ์ 4 คน ที่แยกตัวออกมาสร้างวงใหม่ คือ แอ๊ด - ทนงศักดิ์ อาภรณ์ศิริ - มือเบสส์, ตี๋ - วสันต์ ศิริสุขพิสัย - มือคีย์บอร์ด, รัก - พนัส หิรัญกสิ - แซ็คโซโฟน และ แดง - เสน่ห์ ศุภรัตน์ - ทรัมเป็ต ทั้งนี้ โดยมีเหตุผลที่ว่า เพื่อสร้างสรรค์งานดนตรีที่ดีกว่า และ แปลกใหม่เข้าสู่วงการเพลงในยุคนั้น
นอกจากสมาชิกวงแกรนด์เอ็กซ์ทั้ง 4 คนนี้แล้ว วง " เพื่อน " ยังมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น มาอีก 3 คน คือ หมึก - ดนัย ทวีโภค - มือคีย์บอร์ด, อ๊อด - ฟาโรห์ ตอยยีบี - ลีดส์กีตาร์ และ อ๋อย - สมชาย สีหอำไพ - มือกลอง ซึ่งสมาชิกแต่ละคนของวงเพื่อน ล้วนมีประสบการณ์สูง และมีฝีมือทางดนตรีแก่กล้าเฉพาะตัว
วงดนตรีใหม่โดยใช้ชื่อว่าวงเพื่อน ถ้าวัดกันเฉพาะฝีมือด้านการทำเพลง เรียบเรียงเสียงประสานแล้ว
วงเพื่อนมีภาษีดีกว่าแกรนด์เอ็กซ์ แต่แม่เหล็กที่จะดึงดูดแฟนเพลงในการติดตามผลงาน
ต้องยอมรับว่าเป็นรองอยู่พอสมควร ทั้งนี้เพราะ แจ้-ดนุพล ซึ่งเป็นนักร้องนำไม่ได้เข้าร่วมกับทางวง
ทนงศักดิ์รวบรวบสมาชิกใหม่ซึ่งล้วนแต่เป็นนักดนตรีอาชีพฝีมือดีได้แก่ ฟาโรห์ ตอยยีบี (กีต้าร์),
ดนัย ทวีโภค (คีย์บอร์ด) และ สมชาย สีหอำไพ (กลอง) ทำให้วงเพื่อนประกอบไปด้วยสมาชิก
ที่สร้างความสมดุลภายในวง และออกผลงานชุดแรก "อะโห..ชีวิต" ในปี 2527 กับนิธิทัศน์สังกัดเดิม
ทางวงออกงานชุดนี้โดยไม่ได้สรรหานักร้องนำมาเป็นตัวชูโรงประจำวง แต่แบ่งสัดส่วนภาคการร้อง
เฉลี่ยๆ กันไป ซึ่งเป็นกลยุทธที่ถูกต้องในการเปิดตัว เพราะถ้าจับนักร้องใหม่มาชนคงมิวายต้องถูก
นำไปเปรียบเทียบกับ แจ้-ดนุพล วงเพื่อนสร้างดนตรีที่เป็นแนวทางของตัวเองออกมาโดยเน้น
เพลงเต้นรำสนุกๆ โดยปรับแต่งดนตรีนิวมิวสิคของฝรั่งที่กำลังมาแรงในขณะนั้นให้มีกลิ่นแบบไทยๆ
งานชุดแรกได้รับการต้อนรับในแบบที่ทางวงไม่ผิดหวัง อย่างไรก็ดีทางวงก็มีความตั้งใจที่จะหา
นักร้องนำ ถ้ามีคุณสมบัติเข้ากับคาแร็คเตอร์ของวง ทนงศักดิ์สนใจ กุ้ง-ตวงสิทธิ์ เรียมจินดา ซึ่งเป็น
นักร้องนำประจำวงดนตรีอาชีพวงหนึ่งอยู่แล้ว และกุ้งก็มีผลงานโดยเป็นหนึ่งในนักร้องชายของ
โปรเจ็คท์ 18 กะรัต ของนิธิทัศน์ ซึ่งได้รับความนิยมมาก ทนงศักดิ์จึงทาบทามให้กุ้ง-ตวงสิทธิ์
เข้าร่วมวงในเทปชุดที่สองคือ "จากดวงใจ" ในปี 2528 และเป็นงานของวงเพื่อนที่มีเพลงดังคับอัลบั้ม
"งานวัด" เป็นเพลงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเพลงหนึ่งประจำปีนั้น ทางวงผสานรากเหง้าของดนตรี
พื้นบ้านเข้ากับดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ได้อย่างน่าฟัง "รักบึงเก่า" ถูกนำมาใช้ประกอบหนัง แฟนฉัน
(2546) ส่วน กุ้ง-ตวงสิทธิ์ แจ้งเกิดจากเพลง "ใจคนคอย"
"ป้ากะปู่" เทปชุดที่สามออกขายในปี 2529 พร้อมกับมีคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มที่เป็นคอนเสิร์ตเต็ม
รูปแบบที่เอ็มบีเคฮอลล์ในเดือนพฤษภาคม ชุดนี้มีเพลง "ว้าเหว่" ซึ่งร้องโดย ฟาโรห์ ตอยยีบี เป็น
เพลงม้ามืด เพลงเต้นรำในแบบของวงอย่าง "ป้ากะปู่", "เย้ว..เย้ว" หรือ "งอดแงด" ยังรักษา
มาตรฐานของตัวเองไว้ได้ ดนัย ทวีโภค และ ฟาโรห์ ตอยยีบี ลาออกจากวงและไปฟอร์มวง "น้ำใจ"
ร่วมกับ โชคดี พักภู่ ที่ออกจากแกรนด์เอ็กซ์ มีงานออกมาหนึ่งชุดกับแกรมมี่ ไม่ประสบความ
สำเร็จมากนัก และ สมชาย สีหอำไพก็ลาออกจากวงเช่นกัน
ปี 2530 วงเพื่อนต้องปรับเปลี่ยนไลน์อัพใหม่ อนุสรณ์ พัฒนกุล อดีตมือกลองของ ดิ อิมพอสสิเบิ้ล
เข้าร่วมวง วีระ โชติวิเชียร มือกีต้าร์ฝีมือเยี่ยมอดีตวงมิติเข้ามาเสริมทัพ บุญลือ อบแก้ว มาเล่นเบส
โดยทนงศักดิ์ย้ายไปเล่นคีย์บอร์ดแทน และเพิ่มตำแหน่งเครื่องเป่าคือ ยงยุทธ ผิวสุวรรณ
ไลน์อัพชุดนี้ออกผลงานชุด "แด่ที่รัก" ออกมาในเดือนมีนาคม ผลตอบรับไม่ดีทั้งยอดขายและ
คุณภาพของตัวงานที่ฟังแล้วอ่อนลง มีเพลง "รักมั่นคง" ซึ่งคัฟเวอร์เพลงเก่าของวงซัคเซสร้องนำ
โดยกุ้งพอจะกู้หน้าไว้ได้เพลงนี้ถูกนำไปใช้เป็นเพลงนำในภาพยนตร์เรื่อง "หากคุณรักใครสักคน"
ของ มจ.ทิพยฉัตร ฉัตรชัย
"ทั้งรักทั้งเกลียด" งานชุดสุดท้ายออกในปี 2531 วสันต์ สิริสุขพิสัย ออกจากวงไป อุดร ทับทิมโต
มาเล่นคีย์บอร์ดแทน เพลง "ทั้งรักทั้งเกลียด" ร้องโดยกุ้งเพลงนี้เพลงเดียวก็ช่วยพยุงยอดขาย
ของชุดนี้ให้สอบผ่านได้สบายๆ หลังจากชุดนี้ทางวงถึงจุดอิ่มตัว และทางนิธิทัศน์ตั้งใจจะผลักดัน
กุ้ง-ตวงสิทธิ์ให้ออกมาเป็นนักร้องเดี่ยว วงเพื่อนจึงสลายวงไปหลังงานชุดนี้
ทุกวันนี้จะหางานที่เป็นแนวทางของตัวเองในตลาดเพลงบ้านเราได้ยากสักนิด ทุกคน ทุกวง
จะคล้ายๆกันไปหมด วงเพื่อนเป็นตัวอย่างที่ดีของนักดนตรีอาชีพที่พัฒนาฝีมือการเล่นขึ้นมา
สั่งสมชื่อเสียงประสบการณ์และผลิตงานเพลงที่เป็นแบบฉบับของตัวเอง
แหล่งข้อมูล:oknation.netoldsonghome

๒ ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ๕/๘/๕๖

    ถึงผมจะไม่รู้เรื่องงานเพลง แต่ผมก็เห็นด้วยที่ทุกวันนี้ แต่ละวง แต่ละศิลปินเพลง เหมือนๆ คล้ายๆกันไปหมด หาแบบฉบับของตัวเองยาก แนวดนตตรีก็เปลี่ยนไปตามยุค ตามสมัย อะไรเด่นดังหน่อย ก็หยิบขึ้นมาขายชั่วครั้งชั่วคราว อย่างตอนนี้บ้าศิลปินเกาหลี ไทยเราก็เลียนแบบเขาซ่ะงั้น หาอะไรเป็นของตัวเองไม่ได้เลย เพลงเก่าๆที่มีแบบฉบับเป็นของตัวเอง นับวันยิ่งสาปสูญไปทุกที

    ตอบลบ
  2. เพลงสมัยก่อนแต่ละเพลงดังกันข้ามปี อย่างเพลงชุดที่ 2 ของวงเพื่อน ดังแทบทุกเพลง พอเพลงโปรโมทเริ่มซา ก็ดันเพลงใหม่ในชุดเดียวกันโปรโมทต่อดังยาวไปอีก 3 เดือน6 เดือน ที่ทำแบบนี้ได้เพราะแต่ละเพลงมีคุณภาพจริง ๆ นักร้องสมัยนี้ออกอัลบั้มมามี 10 เพลง แต่มีแค่สักเพลงหรือ2 เพลงเท่านั้นที่พอฟังได้มาแปะหน้าอัลบั้มขายกิน ออกมาทีดังอยู่ได้สัก 2 เดือนก็ลาโรง อีกอย่างสมัยนี้ใช้นักร้องเปลืองมาก คนนึงออกมาได้ชุด 2 ชุดดับแล้ว เพราะอะไร ก็เพราะมีดีแค่หน้าตาอยางเดียวไงคะ นักร้องนักดนตรีสมัยก่อนแต่ละคนเล่นดนตรีได้คนละหลายชนิด ความสามารถรอบด้าน เพราะเขาซ้อมหนัก และเล่นดนตรีเป็นอาชีพประจำตามสถานบันเทิงต่างๆ อย่างทนง อาภรณ์ศิริ จับเครื่องดนตรีได้หลายชนิด แถมยังเก่งเรื่องเรียบเรียงเสียงประสาน แม้แต่ กุ้ง ตวงสิทธิ์ ก็ไม่ได้มีดีแค่หล่อ แต่เสียงดีและเล่นเครื่องดนตรีเป็น นักร้องสมัยนี้อย่าได้เรียกตัวเองว่าศิลปินเลยค่ะ เพราะเป็นได้แค่นักแสดงเท่านั้น เพลงแต่งเองไม่ได้ ดนตรีก็เล่นไม่ได้ แถมบางคนเสียงห่วยแตกมาก แต่อาศัยว่าหน้าตาดีหน่อยก็ออกเทปได้แล้ว ถึงยืนระยะได้ไม่นานกันไงคะ

    ตอบลบ